เป็นข่าวกิจกรรมของกลุ่ม อาสาสมัครฉือจี้ เขตราชบุรี บันทึกความก้าวหน้า สื่อสาร เผยแพร่ ข่าวสารให้ผู้ที่สนใจ กิจกรรมจิตอาสาแนวพุทธฉือจี้ ทราบและมาร่วมงานกัน
วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
คุณเมตตา แซ่ชิว
คุณเมตตา แซ่ชิว เป็นอาสาสมัคร ฉือจี้ ชาวไต้หวัน
邱 CHIU 淑芬 HSUFENG
ชื่อไทย เมตตา แซ่ชิว
ท่านมีชื่อฉายาว่า
慈念
ฉือเนี่ยน
ส่วนฉือเนี่ยน เป็นฉายาที่ท่านธรรมาจารย์ตั้งให้
ฉือ แปลว่าเมตตา
เนี่ยนแปลว่าจิต
ท่านเป็นผู้ที่มีบทบาทสูงมากที่สุดคนหนึ่งในประเทศไทย
เพราะท่านมีปณิธานทุ่มเท ชีวิตทั้งชีวิตให้กับ ภารกิจทั้ง ๘ ประการของฉือจี้ทั้งหมด
ท่านพูดภาษาไทยได้ดีมากพอสมควร ท่านใช้คำพูดที่จริงใจ ที่สื่อสารมาจากใจของท่าน ได้อย่างน่ารักมาก
แม้จะไม่ค่อยถูกต้องตามหลักภาษาไทยนักก็ตาม
ท่านเป็นที่รัก และเป็นที่รู้จักดี ของ อาสาสมัครฉือจี้ชาวโพธาราม และชาวโพธาราม
ท่านได้ให้ความรักกับ ชาวฉือจี้โพธาราม และชาวโพธาราม มาตลอดมากว่า ๑ ปีแล้ว
เวลาท่านมาโพธาราม พวกเราดีใจจริงๆ เหมือนเพลง หวานยิ้ง
วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
ครอบครัวบุญคุณ คุณเกษมสุข
คุณเกษมสุข
ต.ห้วยสัก จ.เชียงราย
เป็น Case CVA อัมพาต
นับถือศาสนา คริสเตียน
อาชีพเดิม ขายก๋วยเตี๋ยวในตลาด พอป่วยสามีก็ทิ้งไป
ทิ้งลูกให้เลี้ยง 3 คน
เคยพยายามฆ่าตัวตาย
ไปช่วยดูแล หัดเดิน หัดพูด
ปัจจุบัน เดินได้ พูดได้ เซ็นชื่อได้
อส.ไปเยี่ยมทุกๆเดือน เอาของไปให้
อยู่กับครอบครัวพี่สาว
ปัจจุบันหยอดกระปุกทุกเดือน
ชาว อส.ฉือจี้ โพธารามและสงขลาไปเยี่ยมเมื่อ
20 พฤศจิกายน 2552
ครอบครัวบุญคุณ คุณจำนง
ไปเยี่ยม
คุณจำนง จันต๊ะนา
คุณจำนงเป็นคนเชียงราย มีลูกเมีย ต้องการไปทำงานแสวงโชคที่ ประเทศไต้หวัน
ไปเป็นกรรมกร ที่โรงงานทำอิฐ ก่อนไปได้ กู้เงินโดยจำนองบ้านหาเงินเป็นค่าเดินทางไป
ผู้ป่วยพิการเนื่องจาก อุบัติเหตุ หินหล่นใส่หัว ผ่าตัดสมอง หลังจากอาการดี ก็พิการแขนขาเสียข้างหนึ่ง
เมื่อป่วยพิการ ทำงานไม่ได้ ภรรยาก็ทิ้งไป
ทำงานเก็บขี้วัวมาตากแห้งขายกระสอบละ 10 บาท เลี้ยงชีพ
เจ้าหนี้ก็มาทวง ไม่มีจ่ายก็จะยึดบ้าน ที่ดิน
เสียใจไม่มีทางออก
ลูกป่วยตาย 1 คน อีกคน ไปบวชเป็นพระ
อาสาสมัครฉือจี้ที่เชียงรายทราบได้มาช่วยเหลือ
ก่อนที่ อส.จาก กรุงเทพจะไป ๓ วัน
คุณจำนง ผูกคอตาย แต่มีชาวบ้านมาช่วยทัน
ชาวอาสาสมัครฉือจี้
ได้มาช่วยเหลือ เจรจาเจ้าหนี้ ให้ผ่อนปรน รับการผ่อนชำระหนี้
หาอาชีพให้ โดยให้คุณจำนงปลูกผักขาย
ขายไม่ได้ ชาวฉือจี้มารับซื้อทั้งหมด
มาเยี่ยมเยียน ให้กำลังใจทุกเดือน
ให้เงินรายเดือน ข้าวสาร(ข้าวเหนียว)
ปัจจุบัน หลังจากมาดูแลได้ ๒ ปี มีชีวิตที่ ดีขึ้นมีกำลังใจต่อสู้ชีวิต
พี่น้องที่่ไม่เคยมาเยี่ยมดูแล ก็มาเยี่ยม
ตอนแรก ก็ไม่คิดว่าเขามีญาติพี่น้อง
เพื่อนบ้านก็มาช่วยเหลือ
กำนันผู้ใหญ่บ้าน ก็เข้ามาดูแล
เจ้าหนี้ก็ไม่กล้ายึดบ้านที่ดิน
ในภาพ พวกชาวอาสาสมัครฉือจี้ โพธาราม และ สงขลา
ได้มาเยี่ยมเยียน เมื่อ 20-11-2009
ช่วยทำความสะอาดบ้าน และบริเวณบ้าน
ให้กำลังใจ ผลัดกัน อวยพร
กอดให้ความรักคุณจำนง
มอบของใช้ อาหาร และเงิน จากมูลนิธิฉือจี้ให้
ร้องเพลง ครอบครัวเดียวกัน
คุณจำนงก็ร้องด้วย
บรรยายกาศ อบอุ่น ตื้นตันใจ พวกเราหลั่งน้ำตากันเกือบทุกคน
วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
ส่วนหนึ่งของคำบรรยายของ คุณสุชน แซ่เฮง วิทยากรฉือจี้
ส่วนหนึ่งของคำบรรยาย ของคุณสุชน แซ่เฮง ในที่ต่างๆ
๕ สถาบันหลักของสังคมจีน
๑.ขุนนาง จักรพรรดิ (เจ้านาย ลูกน้อง)
๒.สามี ภรรยา
๓.พ่อ ลูก
๔.พี่ น้อง
๕.เพื่อน เพื่อน
สถาบัน ครอบครัว สามี ภรรยา สำคัญที่สุด
คุณสมบัติเด็กที่เราต้องการคือ
๑.ซื่อสัตย์
๒.ซื่อตรง
๓.สัจจะ
๔.สมถะ
เครื่องมือในการสอนเด็ก
๑.วาจาดี
๒.ความประพฤติดี
๓.สิ่งแวดล้อมดี
๔.ระบบดี
การศึกษาไม่ใช่ เป็นแต่เพียงการเรียนในห้องเรียน
สิ่งแวดล้อม
อาคาร
ต้นไม้
ครูที่ดี
ก็เป็นสิ่งที่ ให้การศึกษาเด็กทั้งสิ้น
เราต้องการให้เด็กเป็นคนดี มากกว่าเป็นคนเก่ง
เมื่อเป็นเด็ก พ่อแม่เป็นใหญ่ เชื่อพ่อแม่มาก
ต่อมาเมื่อมาโรงเรียน ครูเป็นใหญ่
ครูต้องเป็นแบบอย่างที่ดี แก่เด็กด้วย
แพทย์และครู ไม่ใช่เป็นอาชีพ แต่เป็นปณิธาน
เห้งเจีย มีที่ครอบหัว
ถ้าไม่เชื่อฟัง พระถังซัมจั๋ง
สวด จะรัดหัว ต้องยอม
เหมือนกับ อาสสมัครฉือจี้ ที่ต้องมี ศีลคอยคุ้มครอง
การทำงาน ฉือจี้ เป็นการปฏิบัติธรรม
ตลอดการทำงาน ถ้ามาแล้วไม้ได้ธรรมกลับไป
เหมือนกับ ถูกโจรปล้นไป
กฎที่ต้องปฏิบัติ ในการไปเยี่ยมครอบครัวบุญคุณ
กฎที่ต้องปฏิบัติ ในการไปเยี่ยมครอบครัวบุญคุณ
1.ถ้าได้กลิ่นเหม็น ห้ามแสดงความรังเกียจ ไม่ว่าจะเป็นทาง กายหรือวาจา
2.ช่วยเหลือเท่าที่เราทำได้
3.ห้ามหยิบของของเขา ถ้าเอาไปต้องจ่ายเงินให้
4.การถ่ายรูป ไม่ถ่ายหน้าตรง ให้ถ่ายด้านข้าง หรือหลัง
5.ถ้าเอารูปไปเผยแพร่ต้องปิดตา
6.เวลาลงรถต้องเข้าแถว
7.ถอดรองเท้าให้เอาหัวรองเท้า ออกด้านนอก
8.แต่งตัวมิดชิด ไม่โป๊
9.ร้องเพลงครอบครัวเดียวกัน
10.อวยพร จับมือ ให้กำลังใจ ถ่ายทอดความรัก ยิ้มแย้มแจ่มใส
( บันทึก จากคำบรรยาย ของ คุณ เมตตา แซ่ชิว 20 ธันวาคม 2551 ห้องประชุม สินธานี อ.เมือง จ.เชียงราย)
1.ถ้าได้กลิ่นเหม็น ห้ามแสดงความรังเกียจ ไม่ว่าจะเป็นทาง กายหรือวาจา
2.ช่วยเหลือเท่าที่เราทำได้
3.ห้ามหยิบของของเขา ถ้าเอาไปต้องจ่ายเงินให้
4.การถ่ายรูป ไม่ถ่ายหน้าตรง ให้ถ่ายด้านข้าง หรือหลัง
5.ถ้าเอารูปไปเผยแพร่ต้องปิดตา
6.เวลาลงรถต้องเข้าแถว
7.ถอดรองเท้าให้เอาหัวรองเท้า ออกด้านนอก
8.แต่งตัวมิดชิด ไม่โป๊
9.ร้องเพลงครอบครัวเดียวกัน
10.อวยพร จับมือ ให้กำลังใจ ถ่ายทอดความรัก ยิ้มแย้มแจ่มใส
( บันทึก จากคำบรรยาย ของ คุณ เมตตา แซ่ชิว 20 ธันวาคม 2551 ห้องประชุม สินธานี อ.เมือง จ.เชียงราย)
การอบรม อส.ฉจ.๑๗ ถึง ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๒
เพลง โลกนี้มีความรัก
โลกนี้มีความรัก
人間有愛
เหรินเจียนโหย่วอ้าย
**********************************************************************
1. 感謝 你 給了我 溫暖的 擁抱
ก่านเซี่ย หนี่ เก่ยเลอหว่อ เวินหน่วนเตอะ หย่งเป้า
ขอบคุณ เธอ ให้ฉัน อบอุ่น อ้อมกอด
2. 讓我 擺渡過生命 低潮
ร่างหว่อ ไป่ ตู้ กั้ว เซิง มิ่ง ตีเฉ่า
ให้ฉัน ก้าวข้าม ชีวิต ตกต่ำ
3. 一顆 心 裝 滿 愛 風再大 不 飄搖
อี เคอ ซิน จวง หม่าน อ้าย ฟงไจ้ต้า ปู้ เพียวเหยา
หนึ่ง ดวง ใจ เติม เต็ม ความรัก ลมจะแรง ไม่ ไหวหวั่น
4. 學 會 把肩膀 借 別人 依靠
เซวย ฮุ่ย ป่าเจียนปั่ง เจี้ย เปี๋ยเหริน อีเค่า
รู้จัก นำบ่าไหล่ ให้ยืม ผู้อื่น พักพิง
5. 用 真 心 給了 你 了解的 微笑
ย่ง เจิน ซิน เก่ยเลอ หนี่ เหลียวเจี่ยเตอะ เวยเซี่ยว
ใช้ จริง ใจ ให้ เธอ เข้าใจ รอยยิ้ม
6. 陪著 你 解開 心 事 困擾
เผยเจอะ หนี่ เจี่ยไค ซิน ซื่อ คุ่นเหย่า
เคียงข้าง เธอ คลี่คลาย เรื่องราวในใจ กังวล
7. 看著 你 抬起頭 淚停了 那一秒
คั่นเจอะ หนี่ ไถฉี่โถว เล่ย ถิงเหลี่ยว น่า อี เหมี่ยว
มอง เธอ เงยหน้าขึ้น น้ำตา หยุดไหล ณ วินาทีนั้น
8. 感動 在 胸口 圍繞
ก่านต้ง ไจ้ ซีอง โข่ว เหวยเร้า
ความซาบซึ้ง อยู่ ทรวงอก วนเวียน
9. 我 相信 人間 有 愛 值 得去 期待
หว่อ เซียงซิ่น เหรินเจียน โหย่ว อ้าย จื๋อ เต๋อ ชวี่ ฉีไต้
ฉัน เชื่อ โลกมนุษย์ มี ความรัก คุ้มค่า ที่จะไป รอคอย
10. 長久 封閉的 心 終究 會 打開
ฉางจิ้ว ฟงปี้เตอะ ซิน จงจิ้ว ฮุ้ย ต่าไค
ยาวนาน หุ้มปิด ใจ ในที่สุด จะ เปิดออก
11. 體諒 會 化解 傷害
ถี่เลี่ยง ฮุ้ย ฮว่าเจี่ย ซางไฮ้
การให้อภัย จะ สลาย แผล (ใจ)
12. 關 懷 會 化解 疑猜
กวนหวย ฮุ้ย ฮว่าเจี่ย อี๋ไช
ความห่วงใย จะ สลาย ความแคลงใจ
13. 最 動 人 的 愛 是 信賴
จุ้ย ต้ง เหริน เตอะ อ้าย ซื่อ ซิ่นไล่
ที่สุด ซาบซึ้ง ความรักของคน คือ ความเชื่อใจ
**********************************
แปลสรุป โดย อาจารย์ สุชน แซ่เฮง
**********************************
ขอบคุณอ้อมกอดที่อบอุ่น
ทำให้เราพ้นวิกฤษชีวิต
หัวใจที่เต็มไปด้วยความรัก
ถึงแม้ลมจะแรงก็ไม่หวั่นไหว
เราเรียนรู้ ที่จะให้ยืมไหล่ของเรา ให้ผู้อื่นได้พักพิง
เรามอบความรัก ให้กับเธอด้วยความจริงใจ
เพื่อที่จะทำให้เธอพ้นจากความทุกข์
เราเห็นน้ำตาเธอหยุดไหล แล้วเดินหน้าต่อไป
ทำให้เกิดความปลื้มปิติ ซาบซึ้งถึงในหัวอก
เราเชื่อว่า ในโลกนี้มีความรักเป็นสิ่งที่น่ารอคอย
ความรักทำให้หัวใจคนเปิดกว้าง
ความรักและความห่วงใย ทำให้การเข้าใจผิด ความหวาดระแวง สิ้นมลาย
(ช่วงบรรเลง)
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของส่วนตัว
ปัญหาของครอบครัว
ปัญหาของสังคม หรือ
ปัญหาของประเทศชาติ
มีทางแก้
และวิธีแก้ หนทางเดียวก็คือ
การมอบความรักให้กันและกัน
****************************************************
人間有愛
เหรินเจียนโหย่วอ้าย
**********************************************************************
1. 感謝 你 給了我 溫暖的 擁抱
ก่านเซี่ย หนี่ เก่ยเลอหว่อ เวินหน่วนเตอะ หย่งเป้า
ขอบคุณ เธอ ให้ฉัน อบอุ่น อ้อมกอด
2. 讓我 擺渡過生命 低潮
ร่างหว่อ ไป่ ตู้ กั้ว เซิง มิ่ง ตีเฉ่า
ให้ฉัน ก้าวข้าม ชีวิต ตกต่ำ
3. 一顆 心 裝 滿 愛 風再大 不 飄搖
อี เคอ ซิน จวง หม่าน อ้าย ฟงไจ้ต้า ปู้ เพียวเหยา
หนึ่ง ดวง ใจ เติม เต็ม ความรัก ลมจะแรง ไม่ ไหวหวั่น
4. 學 會 把肩膀 借 別人 依靠
เซวย ฮุ่ย ป่าเจียนปั่ง เจี้ย เปี๋ยเหริน อีเค่า
รู้จัก นำบ่าไหล่ ให้ยืม ผู้อื่น พักพิง
5. 用 真 心 給了 你 了解的 微笑
ย่ง เจิน ซิน เก่ยเลอ หนี่ เหลียวเจี่ยเตอะ เวยเซี่ยว
ใช้ จริง ใจ ให้ เธอ เข้าใจ รอยยิ้ม
6. 陪著 你 解開 心 事 困擾
เผยเจอะ หนี่ เจี่ยไค ซิน ซื่อ คุ่นเหย่า
เคียงข้าง เธอ คลี่คลาย เรื่องราวในใจ กังวล
7. 看著 你 抬起頭 淚停了 那一秒
คั่นเจอะ หนี่ ไถฉี่โถว เล่ย ถิงเหลี่ยว น่า อี เหมี่ยว
มอง เธอ เงยหน้าขึ้น น้ำตา หยุดไหล ณ วินาทีนั้น
8. 感動 在 胸口 圍繞
ก่านต้ง ไจ้ ซีอง โข่ว เหวยเร้า
ความซาบซึ้ง อยู่ ทรวงอก วนเวียน
9. 我 相信 人間 有 愛 值 得去 期待
หว่อ เซียงซิ่น เหรินเจียน โหย่ว อ้าย จื๋อ เต๋อ ชวี่ ฉีไต้
ฉัน เชื่อ โลกมนุษย์ มี ความรัก คุ้มค่า ที่จะไป รอคอย
10. 長久 封閉的 心 終究 會 打開
ฉางจิ้ว ฟงปี้เตอะ ซิน จงจิ้ว ฮุ้ย ต่าไค
ยาวนาน หุ้มปิด ใจ ในที่สุด จะ เปิดออก
11. 體諒 會 化解 傷害
ถี่เลี่ยง ฮุ้ย ฮว่าเจี่ย ซางไฮ้
การให้อภัย จะ สลาย แผล (ใจ)
12. 關 懷 會 化解 疑猜
กวนหวย ฮุ้ย ฮว่าเจี่ย อี๋ไช
ความห่วงใย จะ สลาย ความแคลงใจ
13. 最 動 人 的 愛 是 信賴
จุ้ย ต้ง เหริน เตอะ อ้าย ซื่อ ซิ่นไล่
ที่สุด ซาบซึ้ง ความรักของคน คือ ความเชื่อใจ
**********************************
แปลสรุป โดย อาจารย์ สุชน แซ่เฮง
**********************************
ขอบคุณอ้อมกอดที่อบอุ่น
ทำให้เราพ้นวิกฤษชีวิต
หัวใจที่เต็มไปด้วยความรัก
ถึงแม้ลมจะแรงก็ไม่หวั่นไหว
เราเรียนรู้ ที่จะให้ยืมไหล่ของเรา ให้ผู้อื่นได้พักพิง
เรามอบความรัก ให้กับเธอด้วยความจริงใจ
เพื่อที่จะทำให้เธอพ้นจากความทุกข์
เราเห็นน้ำตาเธอหยุดไหล แล้วเดินหน้าต่อไป
ทำให้เกิดความปลื้มปิติ ซาบซึ้งถึงในหัวอก
เราเชื่อว่า ในโลกนี้มีความรักเป็นสิ่งที่น่ารอคอย
ความรักทำให้หัวใจคนเปิดกว้าง
ความรักและความห่วงใย ทำให้การเข้าใจผิด ความหวาดระแวง สิ้นมลาย
(ช่วงบรรเลง)
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของส่วนตัว
ปัญหาของครอบครัว
ปัญหาของสังคม หรือ
ปัญหาของประเทศชาติ
มีทางแก้
และวิธีแก้ หนทางเดียวก็คือ
การมอบความรักให้กันและกัน
****************************************************
ป้ายกำกับ:
เพลงฉือจี้,
ภาษาจีน,
วัฒนธรรมฉือจี้
เพลง ชีวิตประจำวัน คือเซน
ชีวิตประจำวันก็คือเซน 生活禪 เซิงหัวฉัน
แบกฟืนหาบน้ำ ก็คือเซน 挑柴運水 無不是禪 เทียวฉัยอวิ้นสุ่ยอู๋ปู๋ซื่อฉัน
การพูดการจา ก็คือเซน 開口動舌 無不是禪 ไคโข่วต้งเสออู๋ปู๋ซื่อฉัน
ทุกย่างก้าวที่ทำ ก็คือเซน 舉手投足 無不是禪 จวี๋โส่วโถวจู๋อู๋ปู๋ซื่อฉัน
การเดินยืนนั่งนอน ก็คือเซน 行住坐臥無不是禪 สิงจู้จั้ววั่วอู๋ปู๋ซื่อฉัน
เดินเบาเบา ยืนตรงตรง 行如風 住如松 สิงหยูฟงจู้หยูซง
นั่งมั่นคง นอนคันศร 坐如鐘 臥如弓 จั้วหยูจงวั่วหยูกง
บำเพ็ญตนบ่มเพาะสง่างาม 修心養性端正行為 ซิวซินหยั่งซิ่งตวนเจิ้งสิงเหวย
ทุกอย่างที่ทำก็คือเซน 禪定智慧在其中 ฉันติ้งจื้อหุ้ยจั้ยฉีจง
แบกฟืนหาบน้ำ ก็คือเซน 挑柴運水 無不是禪 เทียวฉัยอวิ้นสุ่ยอู๋ปู๋ซื่อฉัน
การพูดการจา ก็คือเซน 開口動舌 無不是禪 ไคโข่วต้งเสออู๋ปู๋ซื่อฉัน
ทุกย่างก้าวที่ทำ ก็คือเซน 舉手投足 無不是禪 จวี๋โส่วโถวจู๋อู๋ปู๋ซื่อฉัน
การเดินยืนนั่งนอน ก็คือเซน 行住坐臥無不是禪 สิงจู้จั้ววั่วอู๋ปู๋ซื่อฉัน
เดินเบาเบา ยืนตรงตรง 行如風 住如松 สิงหยูฟงจู้หยูซง
นั่งมั่นคง นอนคันศร 坐如鐘 臥如弓 จั้วหยูจงวั่วหยูกง
บำเพ็ญตนบ่มเพาะสง่างาม 修心養性端正行為 ซิวซินหยั่งซิ่งตวนเจิ้งสิงเหวย
ทุกอย่างที่ทำก็คือเซน 禪定智慧在其中 ฉันติ้งจื้อหุ้ยจั้ยฉีจง
เพลงแม่จ๋า
แม่จ๋า 媽媽 มามา
แม่จ๋า แม่ดั่งต้นไม้ใหญ่ 媽媽 您是一棵大樹 มามาหนินซื่ออีเคอต้าซู่
หนูเป็นหนอนตัวน้อยบนไม้ใหญ่ 我是樹上的小毛蟲 หว่อซื่อซู่ซั่งติเสี่ยวเหมาฉง
หนูได้กินใบไม้อยู่ทุกๆวัน 我每天吃樹上的葉子 หว่อเหม่ยเทียนชือซู่ซั่งติเยี่ยจื่อ
คุณแม่ไม่เคยว่าหนู 媽媽 沒有怨言 มามาเหมยโย่วย่วนเหยีย
แม่จ๋าแม่ดั่งต้นไม้ใหญ่ 媽媽 您這一棵大樹 มามาหนินเจ้ออีเคอต้าซู่
ยังคงแตกใบเลี้ยงหนูอยู่เสมอ 還是不停得長出新葉子 ไหซื่อปู้ถิงติจ่างชูซินเยี่ยจื่อ
เพื่อให้หนูเติบใหญ่มีพลัง 使我成長 使我茁壯 สื่อหว่อเชิงจ่างสื่อหว่อจั๋วจ้วง
แม่จ๋าหนูขอขอบพระคุณ 媽媽 我們感恩您 มามาหว่อเหมินกั่นเอินหนิน
แม่จ๋า แม่ดั่งต้นไม้ใหญ่ 媽媽 您是一棵大樹 มามาหนินซื่ออีเคอต้าซู่
หนูเป็นหนอนตัวน้อยบนไม้ใหญ่ 我是樹上的小毛蟲 หว่อซื่อซู่ซั่งติเสี่ยวเหมาฉง
หนูได้กินใบไม้อยู่ทุกๆวัน 我每天吃樹上的葉子 หว่อเหม่ยเทียนชือซู่ซั่งติเยี่ยจื่อ
คุณแม่ไม่เคยว่าหนู 媽媽 沒有怨言 มามาเหมยโย่วย่วนเหยีย
แม่จ๋าแม่ดั่งต้นไม้ใหญ่ 媽媽 您這一棵大樹 มามาหนินเจ้ออีเคอต้าซู่
ยังคงแตกใบเลี้ยงหนูอยู่เสมอ 還是不停得長出新葉子 ไหซื่อปู้ถิงติจ่างชูซินเยี่ยจื่อ
เพื่อให้หนูเติบใหญ่มีพลัง 使我成長 使我茁壯 สื่อหว่อเชิงจ่างสื่อหว่อจั๋วจ้วง
แม่จ๋าหนูขอขอบพระคุณ 媽媽 我們感恩您 มามาหว่อเหมินกั่นเอินหนิน
เพลงครอบครัวเดียวกัน
ครอบครัวเดียวกัน
ความสุขของฉัน เพราะเสียงหัวเราะจากเธอ
เมื่อได้เห็นน้ำตาเธอ ใจฉันนั้นเจ็บปวดเหลือเกิน
ความฝันของฉัน ต้องการคนมาช่วยสร้างสรรค์
ความรักที่ได้จากเธอ เป็นพลังเดินหน้าต่อไป
เพราะว่าพวกเรา ครอบครัวเดียวกัน
ด้วยใจ ร้อยใจ เราต่างซาบซึ้ง
เพราะว่าพวกเรา ครอบครัวเดียวกัน
ร่วมสุข ร่วมทุกข์ บนเส้นทางชีวิต
ความสุขของฉัน เพราะเสียงหัวเราะจากเธอ
เมื่อได้เห็นน้ำตาเธอ ใจฉันนั้นเจ็บปวดเหลือเกิน
ความฝันของฉัน ต้องการคนมาช่วยสร้างสรรค์
ความรักที่ได้จากเธอ เป็นพลังเดินหน้าต่อไป
เพราะว่าพวกเรา ครอบครัวเดียวกัน
ด้วยใจ ร้อยใจ เราต่างซาบซึ้ง
เพราะว่าพวกเรา ครอบครัวเดียวกัน
ร่วมสุข ร่วมทุกข์ บนเส้นทางชีวิต
ส่วนหนึ่งของการบรรยายของคุณสันติ ประธานสาขาฉือจี้ภาคเหนือ
สันติ
เฉิน
ฉายา จี้ฟา
เป็นอาสาสมัคร ฉือจี้ อาวุโส
เป็นประธานสาขาเขตภาคเหนือ ของมูลนิธิฉือจี้ในประเทศไทย
เป็น ผู้อำนวยการอบรม อาสาสมัครฉือจี้ ประเทศไทย
การอบรม อส.ฉือจี้ประเทศไทย ครั้งที่ ๒ ๑๗ ถึง ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๒
ณ ศูนย์ฝึกอบรม บ.สินธานี ต.ห้วยสัก อ.เมือง จ.เชียงราย
ท่านได้กรุณามาบรรบยายแบ่งปันความรู้สึก
มีการ
ฉายชีวิต การ์ตูนให้ดู เกิดมาตายไม่มีอะไร
ได้เปลี่ยนแปลง ชีวิตใหม่
เมื่อได้พบกับท่านธรรมมาจารย์
อาชีพเป็นพ่อค้า
เครื่องแบบ ฉือจี้ ต้องลงมือทำ
๑๓ ปีก่อน มาเป็น อส.ฉือจี้
สมัยนั้น ไม่มีคนไทยเลย
เห็นว่าเป็นโอกาสที่จะได้ทำความดี
ชาวฉือจี้ถือศีล ๑๐
มาทำงานฉือจี้ ทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไป กล้าทำ สิ่งที่เหม็น
เดิมไม่ร้จักคำว่า กตัญญู
ความสัมพันธิ์ในครอบครัวไม่ดี
ความเมตตาก็เป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ศาสนาพุทธเป็นอย่างไร กันแน่
คนไทยไม่ค่อยรู้จักพระโพธิสัตว์
คนไทยมีจิตเมตตาอยู่แล้ว
แต่ไม่ได้ถูกกระตุ้นขึ้นมา
วันนี้เป็นครั้งแรกที่ คนไทย มารวมกันที่นี่มากที่สุด
ในรอบ ๑๓ ปีทมา
คนไทยโชคดีมาก
ไม่มีที่ไหน พบคนแปลกหน้า ทักโดยการไหว้
คนไทยมีรอยยิ้ม มาก
คำว่า สวัสดีครับ ภาษาไต้หวัน แปลว่า ข้าวขาหมู สามถ้วย
อยากให้สิ่งที่ดีงามในสังคมไทย กลับมา
วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
ผู้อำนวยการไปร่วมงานขอบคุณแพทย์าอาสาฉือจี้
วันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
วาทะธรรม
เวลา
...คนที่ไม่ทำงานใด ๆ และปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไร้ประโยชน์ ชีวิตจะเต็มไปด้วยความเกียจคร้าน การปล่อยชีวิตให้ล่วงเลยไปโดยเอาแต่นอน จิตใจจะค่อย ๆ ตกต่ำ สติปัญญาและความสามารถจะถดถอยลงเรื่อย ๆ ผู้ที่ดำรงชีวิตแบบนี้เราเรียกว่า “คนหลับ”...
วาทะธรรม เล่ม 1 หมวดที่ 1 "โอกาสที่ดีที่สุดคือปัจจุบัน" โดยท่านธรรมาจารย์ เจิ้งเอี๋ยน
จุดประทีปแห่งดวงจิต
...หากจิตยึดถือคุณธรรมเป็นที่ตั้ง ก็จะสามารถศึกษาสัจธรรมได้อย่างลึกซึ้งและกว้างไกล ในทางตรงกันข้าม ถึงแม้จะได้อ่านหนังสือธรรมะเป็นร้อยเล่มพันเล่มก็จะเหมือนภาพสะท้อนของดวง จันทร์ในน้ำ เหมือนภาพสะท้อนของดอกไม้ในกระจกเงา ซึ่งมิใช่วัตถุที่เป็นของจริง จะไม่บรรลุผลสำเร็จใด ๆ เลย...
วาทะธรรม เล่ม 1 หมวดที่ 2 "เป็นดั่งดวงจันทร์ กระจกเงาและน้ำ" โดยท่านธรรมาจารย์ เจิ้งเอี๋ยน
เมตตาและกรุณา
...เมตตาเป็นบ่อเกิดของการช่วยเหลือโลกมนุษย์ แต่หากปราศจากปัญญาก็จะไม่เป็น “ความเมตตาอันยิ่งใหญ่” ผู้มีปัญญาจึงจะเป็นผู้ที่แสดงซึ่งความเมตตาอย่างมุ่งมั่น ทั้งนี้ ตามหลักธรรมที่ว่า “ความเมตตากับปัญญาเป็นของคู่กัน” ...
วาทะธรรม เล่ม 1 หมวดที่ 3 "จิต ที่เจ็บปวดแทนผู้อื่น" โดยท่านธรรมาจารย์ เจิ้งเอี๋ยน
เปล่งแสงแห่งปัญญาและการหว่านพันธุ์พืชดี
...เราควรหว่านเมล็ดพันธุ์พืชดีในจิตใจของเรา เมล็ดพืชที่ดีงอกขึ้นหนึ่งเมล็ดจะทำให้วัชพืชน้อยลงหนึ่งต้น นาที่ร้างจากการไถหว่าน วัชพืชจะขึ้นมาแทนที่ ดังนั้น การกระทำความดีจะต้องกระทำทุกวันทุกเวลา และทำอย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นเพียงการยกมือหรือการย่างก้าว จิตจะต้องคิดถึงแต่การทำกรรมดีตลอดเวลา...
วาทะธรรม เล่ม 1 หมวดที่ 4 "ดอกบัวที่บริสุทธิ์" โดยท่านธรรมาจารย์ เจิ้งเอี๋ยน
การพัฒนาบุคลิกภาพ
...อะไรคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต คำตอบก็คือความรัก ผู้ที่เสียสละความสุขส่วนตัวและสามารถให้ความรักแก่ผู้อื่น จะเป็นผู้ที่มีความสุขอยู่เสมอ ชีวิตจะมีคุณค่าอย่างยิ่ง
วาทะธรรม เล่ม 1 หมวดที่ ๕ ความรัก ที่บริสุทธิ์ โดยท่านธรรมาจารย์ เจิ้งเอี๋ยน
เบาแต่หนัก วาทะธรรมท่านธรรมาจารย์เจิ้งเหยียน(證嚴法師)
เบาแต่หนัก วาทะธรรมท่านธรรมาจารย์เจิ้งเหยียน(證嚴法師)
การ ที่อยู่ร่วมกับผู้อื่น ต้องสื่อสารกันด้วยน้ำเสียงและสีหน้า ดังนั้น การพูดคุยกับผู้อื่นควรใช้น้ำเสียงที่นุ่มนวลและแฝงไว้ด้วยสีหน้าที่สุภาพ อ่อนโยน มีไมตรีจิต และรอยยิ้มอยู่เสมอ
หากเราเป็นคนเจ้าอารมณ์และปากร้าย แม้เราจะเป็นคนใจดีเพียงใดก็ตาม เราก็ยังเป็นคนไม่ดีอยู่นั้นเอง
ความ งดงามของมนุษย์นั้นอยู่ที่ความจริงใจ ความจริงใจเป็นบ่อเกิดแห่งจริยธรรมทั้งปวง คุณค่าของมนุษย์อยู่ที่คำพูดที่เชื่อถือได้ ความเชื่อถือคือหลักการขั้นพื้นฐานของชีวิต
จาก หนังสือ วาทะธรรม ๑ ธรรมาจารย์เจิ้งเหยียน หน้า 67-71
การ ที่อยู่ร่วมกับผู้อื่น ต้องสื่อสารกันด้วยน้ำเสียงและสีหน้า ดังนั้น การพูดคุยกับผู้อื่นควรใช้น้ำเสียงที่นุ่มนวลและแฝงไว้ด้วยสีหน้าที่สุภาพ อ่อนโยน มีไมตรีจิต และรอยยิ้มอยู่เสมอ
หากเราเป็นคนเจ้าอารมณ์และปากร้าย แม้เราจะเป็นคนใจดีเพียงใดก็ตาม เราก็ยังเป็นคนไม่ดีอยู่นั้นเอง
ความ งดงามของมนุษย์นั้นอยู่ที่ความจริงใจ ความจริงใจเป็นบ่อเกิดแห่งจริยธรรมทั้งปวง คุณค่าของมนุษย์อยู่ที่คำพูดที่เชื่อถือได้ ความเชื่อถือคือหลักการขั้นพื้นฐานของชีวิต
จาก หนังสือ วาทะธรรม ๑ ธรรมาจารย์เจิ้งเหยียน หน้า 67-71
ความรักที่บริสุทธิ์ วาทะธรรมท่านธรรมาจารย์เจิ้งเหยียน(證嚴法師)
ความรักที่บริสุทธิ์ วาทะธรรมท่านธรรมาจารย์เจิ้งเหยียน(證嚴法師)
อะไร คือสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต คำตอบก็คือความรัก ผู้ที่เสียสละความสุขส่วนตัวและสามารถให้ความรักแก่ผุ้อื่น จะเป็นผู้ที่มีความสุขอยู่เสมอ ชวิตจะมีคุณค่าอย่างยิ่ง
ยอมให้ผู้อื่นหนึ่งก้าว รักผู้อื่นมากขึ้นอีกนิด ทำได้ดังนี้ ชีวิตเราจะมีความสุขตลอดไป
จงเปลี่ยนความโกรธให้เป็นความนุ่มนวล แล้วค่อยเปลี่ยนความนุ่มนวลให้เป็นความรัก เมื่อทำได้เช่นนี้ก็จะน่าอภิรมย์ยิ่ง
จาก หนังสือ วาทะธรรม ๑ ธรรมาจารย์เจิ้งเหยียน หน้า 31-33
อะไร คือสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต คำตอบก็คือความรัก ผู้ที่เสียสละความสุขส่วนตัวและสามารถให้ความรักแก่ผุ้อื่น จะเป็นผู้ที่มีความสุขอยู่เสมอ ชวิตจะมีคุณค่าอย่างยิ่ง
ยอมให้ผู้อื่นหนึ่งก้าว รักผู้อื่นมากขึ้นอีกนิด ทำได้ดังนี้ ชีวิตเราจะมีความสุขตลอดไป
จงเปลี่ยนความโกรธให้เป็นความนุ่มนวล แล้วค่อยเปลี่ยนความนุ่มนวลให้เป็นความรัก เมื่อทำได้เช่นนี้ก็จะน่าอภิรมย์ยิ่ง
จาก หนังสือ วาทะธรรม ๑ ธรรมาจารย์เจิ้งเหยียน หน้า 31-33
การเลี้ยงดูบุตร วาทะธรรมท่านธรรมาจารย์เจิ้งเหยียน(證嚴法師)
การเลี้ยงดูบุตร วาทะธรรมท่านธรรมาจารย์เจิ้งเหยียน(證嚴法師)
ศิษย์ถามว่า"ควรจะอบรมสั่งสอนลูก ๆ อย่างไรจึงจะเหมาะสม
การ เลี้ยงดูลูก ๆ นั้นเปรียบเสมือนการเพาะชำต้นอ่อน เมื่อเราปลูกต้นอ่อนแล้ว หากรดน้ำและใส่ปุ๋ยมากเกินไป รากของต้นอ่อนจะเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็ว เพราะว่าโดยธรรมชาติก็มีน้ำ แสงแดด และอากาศที่เพียงพออยู่แล้ว การอบรมสั่งสอนลูกก็เช่นเดียวกัน หากเราเลี้ยงลูกโดยให้ความรักมากเกินไป กลับจะเป็นโทษ
ลูกไม่เชื่อฟังและไม่ขยันเรียนจะทำอย่างไรดี
ที่จริงการเป็นพ่อแม่จะต้องทำหน้าที่ของพ่อแม่ให้ดีด้วย ไม่ควรใช้อำนาจกับลูก พ่อแม่จะต้องปลูกฝังแต่สิ่งดี ๆ แก่ลูก ในฐานะของความเป็นแม่จะต้องมีความรักต่อสรรพสัตว์ และต้องใช้ปัญญาของพุทธะมาอบรมสั่งสอนลูก อย่าไปวิตกกังวลกับลูกมากเกินไป มิฉะนั้นจะเป็นการเพิ่มบาปให้แก่ลูก
จาก หนังสือ วาทะธรรม ๑ ธรรมาจารย์เจิ้งเหยียน หน้า 168-169
ศิษย์ถามว่า"ควรจะอบรมสั่งสอนลูก ๆ อย่างไรจึงจะเหมาะสม
การ เลี้ยงดูลูก ๆ นั้นเปรียบเสมือนการเพาะชำต้นอ่อน เมื่อเราปลูกต้นอ่อนแล้ว หากรดน้ำและใส่ปุ๋ยมากเกินไป รากของต้นอ่อนจะเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็ว เพราะว่าโดยธรรมชาติก็มีน้ำ แสงแดด และอากาศที่เพียงพออยู่แล้ว การอบรมสั่งสอนลูกก็เช่นเดียวกัน หากเราเลี้ยงลูกโดยให้ความรักมากเกินไป กลับจะเป็นโทษ
ลูกไม่เชื่อฟังและไม่ขยันเรียนจะทำอย่างไรดี
ที่จริงการเป็นพ่อแม่จะต้องทำหน้าที่ของพ่อแม่ให้ดีด้วย ไม่ควรใช้อำนาจกับลูก พ่อแม่จะต้องปลูกฝังแต่สิ่งดี ๆ แก่ลูก ในฐานะของความเป็นแม่จะต้องมีความรักต่อสรรพสัตว์ และต้องใช้ปัญญาของพุทธะมาอบรมสั่งสอนลูก อย่าไปวิตกกังวลกับลูกมากเกินไป มิฉะนั้นจะเป็นการเพิ่มบาปให้แก่ลูก
จาก หนังสือ วาทะธรรม ๑ ธรรมาจารย์เจิ้งเหยียน หน้า 168-169
แม่สามีกับลูกสะใภ้ วาทะธรรมท่านธรรมาจารย์เจิ้งเหยียน(證嚴法師)
แม่สามีกับลูกสะใภ้ วาทะธรรมท่านธรรมาจารย์เจิ้งเหยียน(證嚴法師)
สะใภ้ผู้หนึ่งพูดกับท่านธรรมาจารย์ว่า"ฉันปรนนิบัติแม่สามีอย่างดีแล้ว แต่ท่านยังคงไม่ดีต่อฉันเลย"
แม่ สามีปฏิบัติต่อเราไม่ดีนั้น เป็นเรื่องของท่าน แต่เราปฏิบัติดีต่อท่านนั้น เป็นหน้าที่ของเรา ต้องรู้ว่าการกระทำของเรานั้น อยู่ในสายตาของลูกๆ ตลอดเวลา ลูกจะเรียนรู้จากเราด้วย หากเราดีต่อท่าน ถ้าให้คะแนนจะได้ถึงเก้าสิบเก้าคะแนน ทำไม่ถึงไม่ปฏิบัติดีต่อท่านให้ได้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคะแนน เพื่อให้ได้เต็มร้อยล่ะ
สมาชิกถามถึงการอยู่ร่วมกันระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้
จง ปรนนิบัติต่อพ่อแม่สามีอย่างดี เพื่อให้ท่านมีความสุข ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย จะเป็นบุญกุศลของลูกสะใภ้ ไม่ควรไปขัดใจท่าน ทำให้ท่านโกรธหรือเจ็บไข้ได้ป่วย การดูแลการพยาบาลท่านตกเป็นหน้าที่ของสะใภ้โดยตรง ดังนั้นควรเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน เมื่อไปซื้อกับข้าวที่ตลาด ก็จงอย่าคิดแต่จะซื้ออาหารที่ลูก ๆ ชอบ โดยไม่คำนึงถึงพ่อแม่สามีว่าชอบทานอะไรบ้าง จะทำการใด ๆ ต้องมีความเคารพต่อท่านเสมอ
จาก หนังสือ วาทะธรรม ๑ ธรรมาจารย์เจิ้งเหยียน หน้า 167
สะใภ้ผู้หนึ่งพูดกับท่านธรรมาจารย์ว่า"ฉันปรนนิบัติแม่สามีอย่างดีแล้ว แต่ท่านยังคงไม่ดีต่อฉันเลย"
แม่ สามีปฏิบัติต่อเราไม่ดีนั้น เป็นเรื่องของท่าน แต่เราปฏิบัติดีต่อท่านนั้น เป็นหน้าที่ของเรา ต้องรู้ว่าการกระทำของเรานั้น อยู่ในสายตาของลูกๆ ตลอดเวลา ลูกจะเรียนรู้จากเราด้วย หากเราดีต่อท่าน ถ้าให้คะแนนจะได้ถึงเก้าสิบเก้าคะแนน ทำไม่ถึงไม่ปฏิบัติดีต่อท่านให้ได้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคะแนน เพื่อให้ได้เต็มร้อยล่ะ
สมาชิกถามถึงการอยู่ร่วมกันระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้
จง ปรนนิบัติต่อพ่อแม่สามีอย่างดี เพื่อให้ท่านมีความสุข ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย จะเป็นบุญกุศลของลูกสะใภ้ ไม่ควรไปขัดใจท่าน ทำให้ท่านโกรธหรือเจ็บไข้ได้ป่วย การดูแลการพยาบาลท่านตกเป็นหน้าที่ของสะใภ้โดยตรง ดังนั้นควรเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน เมื่อไปซื้อกับข้าวที่ตลาด ก็จงอย่าคิดแต่จะซื้ออาหารที่ลูก ๆ ชอบ โดยไม่คำนึงถึงพ่อแม่สามีว่าชอบทานอะไรบ้าง จะทำการใด ๆ ต้องมีความเคารพต่อท่านเสมอ
จาก หนังสือ วาทะธรรม ๑ ธรรมาจารย์เจิ้งเหยียน หน้า 167
วาทะธรรม ท่าน ซั่งเหยิน
วาทะธรรม ชุด การพัฒนาบุคลิกภาพ ความรักที่บริสุทธ์
ของ ท่าน ธรรมมาจารย์ เจิ้นเหยียน
1. “อะไรคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต คำตอบก็คือความรัก ผู้ที่เสียสละความสุขส่วนตัว และสามารถให้ความรักแก่ผู้อื่น จะเป็นผู้ที่มีความสุขอยู่เสมอ ชีวิตจะมีคุณค่าอย่างยิ่ง”
2. “บุคคลที่รักผู้อื่น หรือเป็นที่รักของผู้อื่น ล้วนเป็นบุคคลที่มีความสุข”
3. “จงอย่าปิดกั้นตนเอง ขอให้รักผู้อื่นก่อน แล้วผู้อื่นจึงจะรักเรา”
4. “คนเราต้องรักศักดิ์ศรีของตนก่อน จึงจะรักผู้อื่นได้ทั่วหล้า”
5. “ยอมให้ผู้อื่นหนึ่งก้าว รักผู้อื่นมากขึ้นอีกนิด ทำได้ดังนี้ ชีวิตเราจะมีความสุขตลอดไป”
6. “หากเราปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความรักและเมตตา ความอับโชคและภยันตราย จะไม่กล้ำกรายมาใกล้
ดังนั้น เราต้องเป็นผู้ที่ยอมเสียเปรียบในสิ่งเล็กๆน้อยๆ และทำตัวเป็นผู้ประเสริฐที่ฉลาด สามารถที่จะแสร้ง
ทำตัวเป็นดั่งผู้โง่เขลา”
7. “ จงเปลี่ยนความโกรธให้เป็นความนุ่มนวล แล้วค่อยเปลี่ยนความนุ่มนวลให้เป็นความรัก เมื่อทำได้ดังนี้ โลกนี้ก็จะน่าอภิรมย์ยิ่ง”
8. “การทำบุญมิใช่เป็นสิทธิ์เฉพาะของผู้มั่งมี ผู้มีจิตศรัทธาและความใจที่เปี่ยมไปด้วยความรักก็มีสิทธิ์ทำบุญได้เช่นกัน”
9. “ความรู้สึกเศร้าที่สุดในชีวิตของคนเราคือ “เห็นคนอื่นมีครอบครัวแต่ตัวเราไม่มี” ดังนั้น ผู้ที่ปฏิบัติธรรมจะได้ยินคำพูดที่ว่า “ขอให้เราถือว่ามวลสรรพสัตว์ที่มีอายุมากเป็นดั่งบิดามารดาของตนเอง จงรักผู้ที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันเหมือนพี่ เหมือนน้อง และดูแลช่วยเหลือผู้อ่อนเยาว์กว่าดังเช่นลูกหลานของเรา” นี่คือสัจจธรรมที่สูงที่สุด และงดงามที่สุดของมวลมนุษยชาติ”
10. “จงอย่านำความทุกข์ไปปะปนกับความรัก เพราะความทุกข์จะทำให้ความรักไม่บริสุทธิ์”
11. “การปลูกฝังความรักที่บริสุทธ์ โดยไม่คำนึงถึงการ “ได้หรือเสีย” จึงจะถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่หวังผลตอบแทน ดังนี้แล้ว จะไม่ทำให้เราเกิดทุกข์”
12. “ความรักที่หวังผลตอบแทน เป็นความรักที่ไม่จีรังยั่งยืน ความรักที่เป็นนิรันดร์นั้น คือความรักที่ไม่มีรูปลักษณ์ เป็นความรักที่บริสุทธิ์ และไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆเลย”
13. “พ่อแม่ที่รักลูกมากเกินไป จะเป็นการสร้างความทุกข์แก่ลูก จงไว้ใจพวกเขา แล้วพวกเขาจะมีความสบายใจ”
14. “ชาที่มีรสหอม และรสดี เมื่อดื่มแล้วจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่า หากชานั้น ชงเข้มข้นเกินไป จะมีรสขมจนดื่มไม่ได้ ความรักในโลกนี้ก็เป็นเช่นนี้แล”
15. “เรามักจะรู้สึกว่าในหัวใจของเราขาดความรัก จึงไม่รู้สึกพอในความรัก เปรียบดั่งภูตผีที่หิวโหย หากเราลุ่มหลงอยู่ในความรัก จะทำให้เราไม่รู้จักพอ”
16. “เมื่อเราพูดถึงความรัก เราจะพูดในแง่ของความรักที่มีสติ เมื่อเราพูดถึงความรัก เราจะพูดในแง่ที่เป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ และหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง”
17. “พระพุทธองค์ทรงกระตุ้นให้เรามีความรักที่ยิ่งใหญ่ลึกซึ้ง และสามารถแผ่กระจายครอบคลุมไปทั่วจักรวาล ทรงสอนให้เราหลุดพ้นจากการรักตนเอง เพื่อให้จักรวาลอบอวลไปด้วยความรัก จงอย่าให้ความรักนี้ เหมือนดั่งดินโคลนที่มีสิ่งอื่นปะปน และเหนียวเหนอะหนะ”
18. “สุภาพสตรีที่มีธรรมะประจำใจ ควรปลูกฝังจิตใจ และจริยวัตรให้เป็นดั่งเช่น แสงจันทร์ที่ผ่องใสนุ่มนวล ควรจะเปิดใจให้กว้างและทอแสงแห่งปัญญา ควรจะทำให้ทุกคนในครอบครัวและทุกคนที่คบค้าสมาคมด้วยรู้สึกดั่งได้อาบแสง
จันทร์ที่เยือกเย็น นุ่มนวลและสดชื่น จึงจะได้ชื่อว่า “เรารักทุกคน ทุกคนก็รักเรา” จะได้รู้ซึ้งถึงแก่นสารอันแท้จริงของความรัก และจะได้พัฒนาบุคคลิกภาพให้งดงามยิ่งขึ้น”
(จากหนังสือ วาทะธรรม ของท่านธรรมมาจารย์ เจิ้นเหยี่ยน )
ของ ท่าน ธรรมมาจารย์ เจิ้นเหยียน
1. “อะไรคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต คำตอบก็คือความรัก ผู้ที่เสียสละความสุขส่วนตัว และสามารถให้ความรักแก่ผู้อื่น จะเป็นผู้ที่มีความสุขอยู่เสมอ ชีวิตจะมีคุณค่าอย่างยิ่ง”
2. “บุคคลที่รักผู้อื่น หรือเป็นที่รักของผู้อื่น ล้วนเป็นบุคคลที่มีความสุข”
3. “จงอย่าปิดกั้นตนเอง ขอให้รักผู้อื่นก่อน แล้วผู้อื่นจึงจะรักเรา”
4. “คนเราต้องรักศักดิ์ศรีของตนก่อน จึงจะรักผู้อื่นได้ทั่วหล้า”
5. “ยอมให้ผู้อื่นหนึ่งก้าว รักผู้อื่นมากขึ้นอีกนิด ทำได้ดังนี้ ชีวิตเราจะมีความสุขตลอดไป”
6. “หากเราปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความรักและเมตตา ความอับโชคและภยันตราย จะไม่กล้ำกรายมาใกล้
ดังนั้น เราต้องเป็นผู้ที่ยอมเสียเปรียบในสิ่งเล็กๆน้อยๆ และทำตัวเป็นผู้ประเสริฐที่ฉลาด สามารถที่จะแสร้ง
ทำตัวเป็นดั่งผู้โง่เขลา”
7. “ จงเปลี่ยนความโกรธให้เป็นความนุ่มนวล แล้วค่อยเปลี่ยนความนุ่มนวลให้เป็นความรัก เมื่อทำได้ดังนี้ โลกนี้ก็จะน่าอภิรมย์ยิ่ง”
8. “การทำบุญมิใช่เป็นสิทธิ์เฉพาะของผู้มั่งมี ผู้มีจิตศรัทธาและความใจที่เปี่ยมไปด้วยความรักก็มีสิทธิ์ทำบุญได้เช่นกัน”
9. “ความรู้สึกเศร้าที่สุดในชีวิตของคนเราคือ “เห็นคนอื่นมีครอบครัวแต่ตัวเราไม่มี” ดังนั้น ผู้ที่ปฏิบัติธรรมจะได้ยินคำพูดที่ว่า “ขอให้เราถือว่ามวลสรรพสัตว์ที่มีอายุมากเป็นดั่งบิดามารดาของตนเอง จงรักผู้ที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันเหมือนพี่ เหมือนน้อง และดูแลช่วยเหลือผู้อ่อนเยาว์กว่าดังเช่นลูกหลานของเรา” นี่คือสัจจธรรมที่สูงที่สุด และงดงามที่สุดของมวลมนุษยชาติ”
10. “จงอย่านำความทุกข์ไปปะปนกับความรัก เพราะความทุกข์จะทำให้ความรักไม่บริสุทธิ์”
11. “การปลูกฝังความรักที่บริสุทธ์ โดยไม่คำนึงถึงการ “ได้หรือเสีย” จึงจะถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่หวังผลตอบแทน ดังนี้แล้ว จะไม่ทำให้เราเกิดทุกข์”
12. “ความรักที่หวังผลตอบแทน เป็นความรักที่ไม่จีรังยั่งยืน ความรักที่เป็นนิรันดร์นั้น คือความรักที่ไม่มีรูปลักษณ์ เป็นความรักที่บริสุทธิ์ และไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆเลย”
13. “พ่อแม่ที่รักลูกมากเกินไป จะเป็นการสร้างความทุกข์แก่ลูก จงไว้ใจพวกเขา แล้วพวกเขาจะมีความสบายใจ”
14. “ชาที่มีรสหอม และรสดี เมื่อดื่มแล้วจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่า หากชานั้น ชงเข้มข้นเกินไป จะมีรสขมจนดื่มไม่ได้ ความรักในโลกนี้ก็เป็นเช่นนี้แล”
15. “เรามักจะรู้สึกว่าในหัวใจของเราขาดความรัก จึงไม่รู้สึกพอในความรัก เปรียบดั่งภูตผีที่หิวโหย หากเราลุ่มหลงอยู่ในความรัก จะทำให้เราไม่รู้จักพอ”
16. “เมื่อเราพูดถึงความรัก เราจะพูดในแง่ของความรักที่มีสติ เมื่อเราพูดถึงความรัก เราจะพูดในแง่ที่เป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ และหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง”
17. “พระพุทธองค์ทรงกระตุ้นให้เรามีความรักที่ยิ่งใหญ่ลึกซึ้ง และสามารถแผ่กระจายครอบคลุมไปทั่วจักรวาล ทรงสอนให้เราหลุดพ้นจากการรักตนเอง เพื่อให้จักรวาลอบอวลไปด้วยความรัก จงอย่าให้ความรักนี้ เหมือนดั่งดินโคลนที่มีสิ่งอื่นปะปน และเหนียวเหนอะหนะ”
18. “สุภาพสตรีที่มีธรรมะประจำใจ ควรปลูกฝังจิตใจ และจริยวัตรให้เป็นดั่งเช่น แสงจันทร์ที่ผ่องใสนุ่มนวล ควรจะเปิดใจให้กว้างและทอแสงแห่งปัญญา ควรจะทำให้ทุกคนในครอบครัวและทุกคนที่คบค้าสมาคมด้วยรู้สึกดั่งได้อาบแสง
จันทร์ที่เยือกเย็น นุ่มนวลและสดชื่น จึงจะได้ชื่อว่า “เรารักทุกคน ทุกคนก็รักเรา” จะได้รู้ซึ้งถึงแก่นสารอันแท้จริงของความรัก และจะได้พัฒนาบุคคลิกภาพให้งดงามยิ่งขึ้น”
(จากหนังสือ วาทะธรรม ของท่านธรรมมาจารย์ เจิ้นเหยี่ยน )
กิจกรรมประจำเดือน พฤศจิกายน ๒๕๕๒ ของ เขต ตง๑
ตารางกิจกรรมประจำเดือน พ.ย. 2552 เขตตง 1
รับสมัครอาสาสมัคร
11/1 09.00 น. ทำความสะอาดมูลนิธิฯ
11/2 13.00 น. ชั้นเรียนวาทะธรรมที่วัดโบสถ์ (รักโลก)
☆ รับสมัครคุณครูที่เกษียนแล้วหรือผู้ปกครองที่มีความสนใจด้านการศึกษา 10 ตำแหน่ง
11/5 10.00 – 12.00 น. งานฝีมือ(ที่มูลนิธิฯ) ทำสะบู่และลูกชุบ
☆ รับสมัครผู้สนใจเรียนฟรี 20 คน
09.30 ลงชื่อที่อาจารย์นิภาวรรณผู้สอน
11/7-8 ชั้นเรียนอบรมจากคณะอาจารย์ไต้หวัน
11/9 13.00-18.00 ชั้นเรียนวาทะธรรมที่วัดโบสถ์(ความร่วมมือ)
☆ รับสมัครคุณครูที่เกษียนแล้วหรือผู้ปกครองที่มีความสนใจด้านการศึกษา 10 ตำแหน่ง
11/14 งานเลี้ยงขอบคุณคณะแพทย์พยาบาลรพ.บ้านแพ้ว
11/17-22 อบรมอาสาสมัครชาวไทยที่เชียงราย
☆ รับสมัครพลเมืองดีที่มีใจรัก 20 ท่าน
11/23 13.00-18.00 ชั้นเรียนวาทะธรรมที่วัดโบสถ์(ความมัธยัส)
☆ รับสมัครคุณครูที่เกษียนแล้วหรือผู้ปกครองที่มีความสนใจด้านการศึกษา 10 ตำแหน่ง
11/29 07.00-18.00 เยี่ยมและแจกของผู้ยากไร้ที่บ้านแพ้ว
☆ รับสมัครพลเมืองดี 20 คน
สมัครได้ที่ คุณวัชราพร โทร.089-6638838 E-mail : vtip81@yahoo.com
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)